logo

นักศึกษาใหม่

บุคลากร/นักศึกษา

หลากหลายรสชาติชีวิต สีสันหลังเรียนจบมาเป็น ‘สถาปนิก’ บอม - พชร วิรุตมวงศ์ ศิษย์เก่าถาปัตย์รังสิต

24 มิถุนายน 2567

“การได้เห็นผลงานที่ตนเองออกแบบถูกสร้างขึ้น เป็นอาคารจริง ความรู้สึกของคนออกแบบ นอกจากความภูมิใจ ยังมีความท้าทายที่หลากหลาย ทั้งในด้านการออกแบบ การจัดการโครงการ และการประสานงานกับทีมงานต่าง ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงที่เราต้องเผชิญ”



 

 

บอม - พชร วิรุตมวงศ์ ศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่เริ่มต้นชีวิตในฐานนะสถาปนิกเต็มตัวหลังเรียนจบ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ทุกคนจะออกไปหางาน ทำงานตามบริษัทใหญ่เล็กตามความชอบ ความถนัดของแต่ละคน บอมเป็นอีกหนึ่งคนที่เลือกกลับมาทำงานและใช้ชีวิตที่บ้านเกิดในจังหวัดระยอง โดยเริ่มทำงานในบริษัทสถาปนิกช่วงหนึ่ง ก่อนตัดสินใจออกมาฟอร์มทีมกับรุ่นพี่ และรุ่นน้อง รับงานออกแบบในฐานะสถาปนิกอิสระ และด้วยจังหวัดระยองเป็นหนึ่งในจังหวัดสำคัญที่มีบทบาททางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก เรียกว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรัฐบาลไทยได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และด้วยการผสมผสานของอุตสาหกรรมที่หลากหลาย, โครงสร้างพื้นฐานที่ดี, และการส่งเสริมการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ดีไปด้วย การรับงานออกแบบบ้านของโครงการ อาคารสำนักงาน โรงงาน ร้านกาแฟต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ และมีงานเข้ามาเป็นระยะอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปี

 

 



ต่อมาด้วยความที่ทำงานเป็นสถาปนิกวัยรุ่นที่เข้าสู่วัยกลางคน สิ่งหนึ่งที่ค้นพบระหว่างทำงานอิสระ คือ ในงาสถานะทางการเงินอาจมีความไม่มั่นคงหากจะลงทุนซื้ออะไรสักอย่าง ส่วนในด้านการเรียนรู้พบว่าบ้างรายละเอียด หรืองานออกแบบที่มีดีเทลบางอย่าง ยังมีสิ่งที่เรายังไม่รู้ และอยากรู้ ต้องเรียนรู้ เพื่อให้เราสามารถรนำมาเสริมกับสิ่งที่เรามีอยู่ แต่ด้วยความไม่ได้อยากมาเรียนใหม่แบบต้องลงปริญญาโท เลยอาศัยการเรียนรู้ด้วยการลงมือทำจริง จังหันกลับไปสมัครเข้าทำงานในบริษัทอีกครั้งในตำแหน่ง
Senior Architect สิ่งที่ได้เรียนรู้และปรับตัว คือ การทำงานเป็นทีม จากเดิมที่ทำงานคนเดียวแก้ปัญหาคนเดียว มาเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากทีม เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และฟีดแบคต่าง ๆ ในรูปแบบของการทำงานบริษัท นอกจากนี้ยังได้ความรู้เพิ่มเติมด้านงานออกแบบภายในเพิ่มเติม ทำให้ตัวเรามีสกิลเพิ่มเติมถือว่าเป็นประโยชน์มาก ซึ่งใช้เวลาในการทำงานและเรียนรู้อยู่กว่า 3 ปี ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญต่างๆ เรียกว่าเติมเต็มสิ่งที่เราต้องการแล้ว จึงตัดสินใจกลับมารับงานอิสระอีกครั้ง ซึ่งการตัดสินใจลาออกจากบริษัทครั้งนี้เรียกว่าเป็นจุดอิ่มตัว ที่เรามีความมั่นใจในศักยภาพตัวเองทั้งสายวิชาชีพ และเครือข่ายที่มี เมื่อประเมินแล้วมีความสมเหตุสมผล

 

 

ข้อดีของการกลับมาทำงานบ้านเกิดนั่นคือ เราเป็นคนพื้นที่ เราเติบโตมากลับสภาพแวดล้อมที่เราคุ้นเคย อาคาร บ้านเรือน เพื่อนฝูง ที่นี่เราสามารถนำวิชาชีพของเรามารวมตัวกันทำงานกับเพื่อนในสายวิชาชีพอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกันทำให้เครือข่ายขยายวงกว้างขึ้น ภาพรวมของความยั่งยืนในอาชีพที่มีการส่งต่องานซึ่งกันและกันจนทุกวันนี้ยังสามารถรับงานออกแบบได้อยู่ตลอด เพียงแค่รักษาผลงานออกแบบทุกงาน ทุกชิ้นให้ออกมาเต็มที่ที่สุด

 

“มีแว๊ปหนึ่ง ที่รู้สึกน้อยใจว่า ทำไมเงินเดือนของเราเมื่อเทียบกับเพื่อนที่จบสายอื่น หรือ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเรายังตามไม่ทันเพื่อน บางคนเป็นประธานบริษัท บางคนเป็นเจ้าของโรงงาน แม้กระทั่งบางคนเงินเดือนเป็นแสน แต่สุดท้ายเมื่อเรามานั่งทบทวนกับอาชีพที่เราทำอยู่ คือ ณ จุดหนึ่งในชีวิต..เราอยากมีความสุขกับอะไรที่สุด? คำตอบของบอม คือ ความสุข และ เวลา” ความสุขที่มีงานออกแบบบ้าน หรืออาคารต่าง ๆ  ความสุขที่เมื่อเห็นแบบแล้วลูกค้าชอบ สุดท้ายเขาสร้างสิ่งที่เราออกแบบขึ้นมาเรายิ้มเขายิ้มก็โอเคแล้ว ความสุขกับการมีเวลาหาแรงบันดาลใจเพื่อมาออกแบบ ความสุขที่ได้มีเวลาพูดคุยอธิบายสิ่งที่เราออกแบบกับลูกค้า ความรู้สึกน้อยใจก็หายไปทันที เพราะนี่คือสิ่งที่ฮีลใจที่สุด หากวันนี้นึกย้อนกลับไปการที่เลือกเรียนสถาปัตย์ เพราะความอยากออกแบบบ้าน อยากสร้างบ้าน คิดว่าเราเลือกเรียนคณะนี้ถูกใจเราแล้ว ไม่รู้สึกผิดหวัง

 

ส่วนหากให้นึกย้อนไปถึงคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ภาพรวมที่ใช้ชีวิตตลอด 5 ปี ได้อะไรเยอะแยะมากมายโดยเฉพาะคำพูดหนึ่งจากรุ่นพี่ที่ว่า “มาอยู่กับพี่ พี่ดูแลเอง” บรรยากาศวันแรกที่เข้าไปเรียน อาจารย์ รุ่นพี่ ดูแลดีมาก เมื่อจบมาสังคมเพื่อนยังคงเหนี่ยวแน่นและยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ส่วนการเรียนการสอนที่ประทับใจคือการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการออกแบบ การได้เรียนรู้โปรแกรมออกแบบต่าง ๆ เราได้เครื่องมือจากการเรียนมาช่วยแก้ปัญหา โดยเฉพาะเมื่อเราเป็นสถาปนิก เราต้องเป็นนักคิด เราต้องรู้จักใช้เครื่องมือในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการปรับตัวต่อสถานการณ์ในอาชีพสถาปนิกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความประทับใจที่ได้เรีนยวิชา Vernadoc คือ จิตวิญญาณ เพราะการได้จับปากกหรือดินสอขึ้นมาวาดรูป ขีดเขียน ใช้ความคลาสิคของการเขียนมือทำให้เรายังคงความเป็นนักออกแบบ คงความเป็นตัวตนของตัวเอง สุดท้ายแล้วนอกจากการเป็นสถาปนิกแล้ว สถาปนิกทุกคนคือนักขาย ขายไอเดีย ขายดีไซน์ ขายความน่าเชื่อถือ ดังนั้น สิ่งที่เราเก็บเกี่ยวได้ดีระหว่างทางที่ได้เรียนคือการฝึกทักษะการสื่อสาร การตลาด เพราะเริ่มฝึกนำเสนอตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 เป็นการฝึกนำเสนองานให้ลูกค้าซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวมาและนำมาใช้เมื่อเรานำเสนองานตั้งแต่ที่ทำงาน และสุดท้ายจะค้นพบว่า ลูกค้าที่เป็นอาจารย์คือโหดที่สุดแล้ว เพราะในโลกความเป็นจริงไม่ขนาดนั้น อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านเหล่าลูกค้าอาจารย์มาได้ลูกค้าในโลกความเป็นจริงไม่น่าห่วงอย่างที่คิด

 

 

สุดท้ายในสายวิชาชีพงานออกแบบไม่ได้มีผิดหรือมีถูกเสมอไป เมื่อบ้านหลังหนึ่งใช้เวลาออกแบบ 1 – 2 ปี ในการออกแบบและก่อสร้าง ความสำเร็จของสถาปนิกในมุมมองของผมรายละเอียดของงานออกแบบที่ส่งต่อให้ลูกค้าแล้วเขามองเห็นถึงคุณค่าของงานที่เราทำมันจะอยู่ตลอดไป 

สถาปัตย์รังสิต
ARCHRSU
DEK68
ออกแบบ
ไลฟสไตล์
Lifestyle
ศิษย์เก่ารังสิต
สถาปนิก

แชร์

copy

Calendar

View more


Related blogs

View more

loading
loading
loading
loading

Loading...

Privacy Policy

© 2024 RANGSIT UNIVERSITY