เป็นสถาปนิก = เป็นนักคิด
15 กรกฎาคม 2567
“จุดเริ่มต้นการค้นหาตัวเองอาจจะเหมือนหรือต่างกัน
ไม่แปลกที่เมื่อตอนเด็กเราชอบวาดรูป แล้วโตมาเรื่อย ๆ อาจถึกทักไปเองว่าต้องเรียนไม่ศิลปะ
ออกแบบ สถาปัตย์ สุดท้ายสิ่งภาพจะค่อย ๆ ชัดเจน และนั่นคือตัวเราในวันนี้” ข้าวฟ่าง – เกษสุดา ขุนทวี ศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยรังสิต รุ่นที่ 26 สถาปนิกบริษัท Section08 Design And
Development
ในวัยเด็กของทุกคนมีความฝันตามวัย โตขึ้นมาอยากเป็นนั่น
เป็นนี้ไปตามวัย แต่เราไม่รู้ว่าเราจะได้เป็นอย่างที่เราอยากเป็นจริงๆ หรือเปล่า ณ
ตอนนั้นเราแทบไม่รู้เลย แต่สิ่งแวดล้อมที่เราใช้ชีวิตอยู่
เช่นตามคุณแม่ไปทำงานด้วย เนื่องจากคุณแม่ทำงานทางด้านโยธา
ทำให้เรารู้แล้วว่าเรื่องแรกชอบการเดินทาง พอโตมาวิชาที่เราเรียนสมัยมัธยมฯ
จะบอกความถนัดว่าเราเรียนอะไรได้ดีและอะไรพอไปได้
ทำให้เรารู้ว่าเรื่องที่สองเราไม่ถนัดวิชาคำณวน
จากนั้นเมื่อถึงช่วงที่เราต้องเลือกเรียนมหาวิทยาลัยแล้วจะเลือกอะไร?
สองเรื่องที่เราเริ่มรู้ตัวเอง ทำให้พอจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตัดสินในเลือกเลือกเรียนมาทางสายสถาปัตย์ที่
วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี
ตอนเรียนสายอาชีพในระดับ ปวช. ด้านสถาปัตย์
เรียกได้ว่าเรียนได้ มีความถูกกับบุคลิกเรา
จากนั้นมาต่อระดับมหาวิทยาลัยในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เลย อย่างที่บอกสัญชาตญาณบวกกับจุดเริ่มต้นที่เราคิดว่าใช่แต่แรกมันต้องใช่
และเราเลือกเรียนคณะนี้ที่ มหาวิทยาลัยรังสิต
(หลังจากการสอบตกอกหักจากการสอบมหาวิทยาลัยรัฐ)
นึกถึงวันที่เราบินตรงจากอุบลราชธานี ไปสมัครเรียนที่ ม.รังสิต ไปสอบสัมภาษณ์
ในใจคิดว่า “เราคงเรียนได้แหละมั้ง” ยิ่งเรียนยิ่งใช่ ยิ่งได้ทำงานยิ่งชอบ
เรียกว่ารู้จักตัวเองมากมากขึ้นแล้ว แต่ไม่ใช่ทุกวิชาที่ชอบเสมอไป คล้ายกับเป็นความถนัดมากมากว่า
วิชาไหนที่เราชอบจะง่ายทันที นี่คือชีวิตการเริ่มต้นบทเรียนของเป็นสถาปนิก
แน่นอนว่าเราไม่ได้เน้นเรียนสถาปัตย์อย่างเดียว ต้องเรียนวิชาพื้นฐาน
และวิชาที่เกี่ยวข้องกับงานด้านวิชาชีพสถาปัตย์ด้วย จากปี 1 จนถึง ปี 5
เริ่มมีความยาก ละเอียด ซับซ้อนมากขึ้น
จนรู้สึกท้อบ้างจนอยากเลิกเรียนไปเลย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้คิดคือถ้าเราไม่ชอบแต่แรกจะเลือกเรียนทำไม
และเราต้องเริ่มหาตัวตนใหม่อีกครั้งหรือ
ภาพที่ไม่คิดไม่ฝัน ไม่เป็นอย่างที่คิด
จากเดิมเราเรียนมาจากที่อุบลฯ มีความมั่นใจว่ามาเรียนที่ ม.รังสิต ต้องเหมือนกัน
สถาปัตย์ที่ไหน ๆ ก็ต้องเหมือนกัน ที่นี่แตกต่างมากอย่างที่เกริ่นไป
จะเป็นสถาปนิกเราจะรู้แค่งานออกแบบไม่ได้
อะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับวิชาชีพสถาปนิก จำเป็นต้องรู้ให้หมด
รู้ให้กว้าง รู้ให้มาก วิชาที่ยากที่สุดสำหรับเราในตอนนั้น คือ วิชาโครงสร้าง
เพราะความไม่ชอบคำณวนเป็นพื้นฐานเลยมองว่าไม่ถนัดมากๆ
มาเรียนถาปัตย์เพราะอยากวาดรูป อยากออกแบบอย่างเดียว
แล้วค้นพบว่าไม่ได้วาดรูปเลยแม้แต่น้อย วันแรกที่เรียนจนถึงวันสุดท้ายที่จบออกแบบสิ่งที่เราได้แน่
ๆ เลยแม้ไม่ได้วาดรูปแต่นั่นคือ
แนวความคิดที่เป็นพื้นฐานของสายวิชาชีพที่เอามาใช้ได้ตลอดในการทำงาน
รวมถึงตลอดการใช้ชีวิต
“การคิดวิเคราะห์”
เป็นหัวใจสำคัญที่เราได้จากทีนี่
ไม่ใช่แค่คิดวิเคราะห์ในตัวงานแต่หมายถึงเรื่องของการคิดวิเคราะห์ตัวบุคคล
ตัวสถานที่ ตัวงานออกแบบ เพราะอาชีพของเรา
เมื่อเราทำงานออกแบบเพื่อใครสักคนหนึ่ง(เรียกว่าลูกค้าก็ได้)
เราไม่ได้สักแต่แค่ออกแบบตามคำสั่งหรือโจทย์ที่ได้รับมา เราต้องคิด
เราต้องวิเคราะห์ คิดเพื่อคนอื่น ใช้การคิดวิเคราะห์ที่ได้จากการเรียนมา
นำมาคิดให้รอบด้าน ครบถ้วน ลงรายละเอียด ตีโจทย์งานออกแบบให้เข้าถึงสิ่งที่คนอื่นหรือลูกค้าคิดและคาดหวังสิ่งที่เราจะออกแบบและไปนำเสนอ
ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าเราต้องมาเรียนอะไรที่ลงรายละเอียดขนาดนี้เลยเหรอ
ซึ่งมันไม่ง่ายแต่ถ้าเราทำไม่ได้งานออกแบบเราก็ไม่ต่างอะไรกับงานทั่วๆไป
“สังคมดี” เป็นเรื่องรองลงมาจากที่เราได้มาจากการเรียนทีนี่
เพราะว่าเราไม่คิดว่าการที่เรามาเรียนมีเพื่อน เรียนจบแล้วก็จบไปแยกย้ายกันไปทำงาน
แต่ไม่ใช่เลย เพื่อน รุ่นพี่ อาจารย์ มีความเป็นกันเอง เรียนสนุกมาก
ตรงไหนที่เราคิดว่ายากเริ่มท้อแล้ว ทุกคนพร้อมลงมานั่ง มาฟัง มาช่วยอธิบายจนกว่าเราจะโอเคและผ่านมันไปได้
เป็นสังคมที่เราโชคดีที่เจอบรรยากาศแบบนี้
เรียนจบแล้วทุกอย่างยังเหมือนวันแรกที่เข้ามา ทุกคนยังติดตาม ถามไถ่ นัดเจอกัน
มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน อาจารย์ยังให้คำปรึกษากับเราได้อยู่เหมือนเดิมทั้งเรื่องงานและเรื่องการใช้ชีวิต
ความประทับใจจากวันแรกจนวันที่เดินออกจากมหาวิทยาลัย
ยังคงเป็นภาพแห่งความทรงจำเสมอ
“อาจารย์เปรียบเสมือนครอบครัว” ที่คณะนี้อาจารย์เป็นมากกว่าอาจารย์จริงๆ อาจารย์หนึ่งคนเป็นได้ทุกอย่าง เป็นเพื่อนเวลาที่เราท้อกับการเรียน เป็นพี่คอยสอนคอยให้คำแนะนำทุกเรื่อง และเป็นอาจารย์ที่จริงจัง ใส่ความรู้ให้หมดไม่ว่าอาจารย์มีประสบการณ์อะไรมา จะคอยแนะเทคนิค ชี้นำวิธีคิด และสอดแทรกมุมมองที่ดีต่าง ๆ ให้กับเราเสมอ แม้กระทั่งนั่งทำงานออกแบบอยู่ บางครั้งคำพูดอาจารย์ เช่น ทำไม่ไม่ทำแบบนี้...? ทำไม่ไม่เริ่มตรงนี้ก่อน...? ยังวนเวียนลอยอยู่ในหัวจนงานเสร็จบ้างก็มี
วันนี้ได้เราเป็น “สถาปนิก” จริงๆ มาทำงานในโลกความเป็นจริงที่ไม่ได้มีในตำราหรือหนังสือแล้ว
ให้พยายามทบทวนสิ่งที่เรียนมา และประยุกต์ใช้ไปเรื่อย มีพลังความคิดเยอะ ๆ วันที่เราได้ทำงานจริงแล้ว
ให้นำทุกสิ่งทุกอย่างจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ออกมาใช้...เชื่อเถอะว่า ใช้ได้ทุกเรื่องจริงๆ การทำงาน การใช้ชีวิต การพบเจอผู้คน
สังคม..ดี เครือข่าย..ดี ครอบครัวสถาปัตย์ ม.รังสิต
แชร์
Calendar
View more
Related blogs
View more
Loading...