ความสนุกของ ‘สถาปนิกนักกิจกรรม’ ปิดดิลทุกเป้าหมายให้ Success ด้วยการค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุด
17 กันยายน 2567
เรื่องราวมุมมองที่น่าทึ่งของผู้หญิงตัวเล็กๆ
คนหนึ่งที่มีความกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ เพราะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง
“หากมีความตั้งใจ ทุกอย่างต้องเป็นไปได้” ของพี่ปุ้น - จารุวัจน์ เล็กดำรงศักดิ์ เจ้าของบ้านขนมปังขิง
รีสอร์ท นครนายก (Gingerbread
House Nakonnayok) ที่ขอหยิบยกนำมาส่งต่อเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งเป้าหมายชีวิตให้กับรุ่นน้องรั้วมหาวิทยาลัยรังสิต
ได้ลองนำไปเป็นแนวทางกันไม่มากก็น้อย
รู้จักศิษย์เก่าเจ้าของบ้านขนมปังขิง รีสอร์ท
พี่ปุ้น - จารุวัจน์ เล็กดำรงศักดิ์ ศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
รุ่นที่ 10 มหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบันดูแลธุรกิจบ้านขนมปังขิง รีสอร์ท จังหวัดนครนายก
(Gingerbread House
Nakonnayok) สถานที่พักผ่อนสำหรับผู้รักสุนัขและสัตว์เลี้ยง
ร้านอาหาร รีสอร์ท สระว่ายน้ำ ครบวงจรที่แรกในประเทศไทย และบริษัท ดี-คอน ดีไซน์
แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (DE-CON DESIGN AND CONSTRUCTION COMPANY
LIMITED) ดูแลรับเหมาก่อสร้างธุรกิจปั้มน้ำมันเป็นหลัก รุ่นพี่คนนี้ไม่ได้เกิดและโตที่จังหวัดนครนายกแต่อย่างใด
เรียกว่าเป็นคนเมืองใช้ชีวิตวัยเรียนประถมฯ มัธยมฯ อยู่ในกรุงเทพ
ช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อมีความคิดว่าอยากเป็นนักโฆษณา จึงเลือกเรียนสายศิลป์-ภาษา
แต่พอเรียนจริงกลับไม่ใช่ จริงๆ แล้วเราอยากเรียนออกแบบที่ไม่ใช่แค่ออกแบบโฆษณา
อยากเข้าถึงการออกแบบที่เป็นพื้นฐานของทุกอย่างจึงย้ายไปเรียนสาย ปวช.
ทางด้านสถาปัตยกรรม เพราะเชื่อว่าถ้าเรียนวิชาชีพด้านนี้สามารถที่จะทำงานออกแบบได้หลายรูปแบบ
เหตุผลที่เลือกเรียนสถาปัตย์
การตัดสินใจเบนเข็มมาเรียนสถาปัตย์
เป็นการเชื่อในสัญชาตญาณ
บวกกับการศึกษาหาข้อมูลของพี่ปุ้นที่มากพอในการหาข้อสรุปให้ตัวเองว่าเรียนสถาปัตย์แล้วทำอาชีพอะไร
พี่ปุ้นค้นพบคำตอบว่า “เมื่อเรียนสถาปัตย์ เราเป็นได้มากกว่าสถาปนิก”
หากวันหนึ่งไม่ได้อยากเป็นสถาปนิก แน่นอนว่าพื้นฐานงานออกแบบยังมีอยู่
ซึ่งสามารถนำไปใช้ออกแบบในสิ่งที่ถนัด หรือสิ่งที่ชอบได้ รวมถึงสามารถเปลี่ยนสายอาชีพที่ยังคงอยู่ในกลุ่มงานออกแบบได้
สกิลติดตัวที่ทำให้เรามีความเชื่อมั่นในการเลือกเรียนด้านออกแบบ
เป็นความถนัดในการสเก็ตภาพ วาดรูป คณิตศาสตร์ ที่สั่งสมช่วงเรียน ปวช.
และมาต่อในช่วงมหาวิทยาลัย ซึ่งเลือกเรียนที่ ม.รังสิต เพราะสิ่งอำนวยความสะดวก
บรรยากาศ และความคาดหวังที่ต้องเรียนสนุกแน่ๆ
ตามเทรนด์ละครที่นำเสนอไลฟสไตล์เด็กสถาปัตย์สมัยนั่น ซึ่งตรงกับไลฟสไตล์และคาแรกเตอร์ของตัวเรา
การก้าวเท้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยของพี่ปุ้น คือได้พบเจอกับเพื่อนๆ สถาปัตย์
ม.รังสิต ที่ทุกคนมีสไตล์ มีความชัดเจน มีคาแรกเตอร์ของตัวเอง
เป็นภาพความทรงจำที่น่าประทับใจ การมาเรียนทุกวันมีแต่ความสนุก เรื่องเรียนจึงไม่ได้มีความยากง่ายเพราะเราเริ่มต้นเรียนสิ่งใหม่ๆ
ด้วยกัน เราสามารถปรับตัว เปิดรับความรู้ได้ตลอดเวลา การได้ทำงานร่วมกับเพื่อน ได้เข้าร่วมกิจกรรมแทบจะทุกกิจกรรม
เรียกว่าเป็นนักกิจกรรมตัวยงของคณะ ได้รับบทบาทหน้าที่เป็นทั้งสต๊าฟ เป็นสันทนาการ
เล่นละครเวที ประธานชมรมเชียร์ เป็นต้น
เรียนสถาปัตย์ได้อะไรบ้าง
นอกจากความสนุกสนานในการเรียนแล้ว
อาจารย์ในคณะเป็นอีกเหตุผลที่พี่ปุ้นประทับใจที่ปัจจุบันแม้จะเรียนจบและทำงานมากว่า
10 ปี แต่อาจารย์ยังคงจำลูกศิษย์ได้เกือบทุกรุ่น ทุกคน
ซึ่งพี่ปุ้นมองว่าการที่อาจารย์คนหนึ่งจะจดจำลูกศิษย์ได้ต้องมีความใส่ใจมาก
สามารถบอกคาแรกเตอร์ บอกคุณสมบัติของลูกศิษย์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้วิชาเรียนในสาขาอย่างวิชาออกแบบ เป็นการเรียนที่สนุกมากจริงๆ เพราะสอนให้เราคิด
สอนให้เรามีจิตนาการ สอนคิดในหลายด้าน
เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหา ไม่ใช่ออกแบบบ้าน อาคาร
แต่เป็นการพัฒนาทักษะการคิดในหลากหลายมิติที่สำคัญสำหรับคนออกแบบเพื่อสามารถประกอบวิชาชีพในด้านต่างๆ
ได้ นอกจากตัวเนื้อหาความรู้จากที่เรียนสถาปัตย์ที่ได้รับมาเต็มที่
และเชื่อมั่นว่างานออกแบบเป็นสิ่งที่เราเข้าใจ ทำได้ และทำได้ดี และได้นำความรู้นั่นมาลองสนามจริงครั้งแรกในการฝึกงานที่กรมโยธาธิการและผังเมือง
ซึ่งเป็นเด็กสถาปัตย์จากมหาวิทยาลัยเอกชนคนเดียวที่ได้ฝึกที่นี่
และมีโอกาสได้ลงพื้นที่ไซต์งานจริง ทำงานจริงกับรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ที่นั่น
ได้แลกเปลี่ยนโอกาส ประสบการณ์การทำงาน การแก้ไขปัญหาหน้างานในไซต์งาน
ทำให้เราได้ฝึกฝนในเรื่องงานออกแบบให้ดียิ่งขึ้น
จากโอกาสที่ดีนั้นนำไปสู่ผลงานการออกแบบที่ได้รับการชื่นชมว่า “เด็กถาปัตย์รังสิต
ผลงานดี” นอกจากผลงานที่ทำให้เรามั่นใจว่าเราทำได้และทำได้ดี เรายังมีเครือข่ายที่ดีอีกด้วย
ชีวิตการทำงานในตำแหน่ง “สถาปนิก”
หลังฝึกงานเรียนจบมีความรู้สึกประหม่ากับการออกไปทำงานจริงในตำแหน่งสถาปนิก
เพราะอย่างที่พี่ปุ้นกล่าวคือ “เรียนไม่ยาก ทำงานสิยากกว่า”
เมื่อพ้นรั้วมหาวิทยาลัยออกนอกคณะมาแล้วไม่มีใครแนะนำว่าชีวิตต้องทำอะไรต่อจะสมัครงานที่ไหน
ซึ่งตรงนี้เราต้องมีความเป็นผู้ใหญ่แล้ว
การเข้าไปทำงานในบริษัทครั้งแรกอาจไม่เหมือนที่คาดหวังไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่
ม.รังสิต สอนให้เราฝึกคิด ฝึกตั้งคำถาม แก้ไขปัญหา
ที่สำคัญระหว่างเรียนได้ลงมือทำงานจริงทำให้สามารถทำงานเป็นได้ทุกอย่างไม่เกี่ยงงานหนัก
งานมาก งานน้อย อันไหนที่ทำได้นอกเหนือจากงานออกแบบ สามารถที่จะปรับตัวและทำงานมากกว่าการเป็นสถาปนิกเสียอีก
ประสบการณ์จากการทำงานในบริษัทช่วงระยะเวลาหนึ่งทำให้มีสกิลการบริหารงาน การเงิน
การดิลงาน และอื่น ๆ เสมือนเป็นการฝึกวิทยายุทธไปในตัว
สิ่งเหล่านี้ทำให้พี่ปุ้นเป็นคนหนึ่งที่มีความ Multi Task Skill ในด้านการทำงาน
และพี่ปุ้นเลือกเพิ่มทักษะในการพัฒนาตัวเองจากการตัดสินใจไปเรียนเพิ่มเติมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
และกลับมาลุยงานต่อโดยเลือกที่จะดูแลธุรกิจรับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัวต่อเรียกว่ามาเป็น
Generation ใหม่ในการบริหารและดูแลกิจการต่อไป
ความท้าท้ายของการเป็นสถาปนิกที่ต้องบริหารกิจการ
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานที่ไม่ใช่สถาปนิกในบริษัท
แต่เป็นสถาปนิกที่ดูแลบริหารจัดการโครงการ การจัดการไซต์งาน และวางแผนงาน
เพื่อให้ทุกงานดำเนินการไปตามแพลนภายใต้ทรัพยากรที่มีให้คุ้มค่า และได้กำไร
และด้วยความที่เหมือนเป็นการส่งไม้ต่อธุรกิจครอบครัว ทุกอย่างทำให้เราต้องรันเอง ทำเอง
กำหนดเป้าหมาย วางแผนทิศทางของบริษัทให้ Success โดยมีเป้าหมายว่า
“ทำทุกงานให้สำเร็จ”
จึงเป็นจุดเริ่นต้นของการเริ่มสร้างความเชื่อมั่นและไว้ใจให้กับลูกค้า
จากความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ในการทุ่มเทไปกับทุกงานที่ได้รับ แม้จะใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำได้
หลายงานที่ผ่านมาจึงเป็นการการันตีความ Success ของการบริหารงานโครงการของเราได้ดี
แต่ความท้าทายไม่หยุดเพียงแค่นี้ ด้วยความเป็นคนที่ชอบทำงานมาก
มีบางช่วงที่กลับไปเปิดลิสรายการสิ่งที่เป็นตัวเรา สิ่งที่เราชอบ ว่ามีอะไรบ้าง
อาทิ ชอบสัตว์เลี้ยง ชอบทำขนม ชอบกินผลไม้
ชอบไปเที่ยวเกิดไอเดียอยากสร้างโปรเจกต์ที่รวมทั้งหมดไว้ด้วยกัน
เป็นที่มาของโครงการสร้างสถานที่พักผ่อนสำหรับคนรักสัตว์ ที่มีร้านอาหาร มีที่พัก มีสระว่ายน้ำ
และเราเป็นสถาปนิกที่เราคิดว่า “เราสร้างได้ เราทำได้”
โปรเจกต์ทำรีสอร์ทที่สถาปนิกสร้างได้
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นความท้าทายในสายวิชาชีพงานออกแบบ
แต่การทำธุรกิจรีสอร์ทไม่ใช่แค่ออกแบบ แต่คือการสร้างธุรกิจ การลงทุน การตลาด
การทำร้านอาหาร และอื่นๆ ที่ไม่ได้ถนัดทั้งหมด “ทุกอย่างอยู่ที่ใจล้วน ๆ” พี่ปุ้นเริ่มจากการดิลที่ดินของทางบ้านที่ซื้อไว้ในจังหวัดนครนายก
เมื่อ 14 ปีที่แล้ว การมาดูที่ดินและจินตนาการถึงการเนรมิตรพื้นที่ให้เป็นรีสอร์สำหรับสัตว์เลี้ยงซึ่งสมัยนั่นที่นี่เป็นที่แรกในประเทศไทยที่เริ่มทำแบบครบวงจร
สิ่งที่ง่ายที่สุดของโปรเจกต์คือการออกแบบ งานดีไซน์รีสอร์ท ตัวร้านอาหาร
และบรรยากาศต่าง ๆ สิ่งที่ยากที่สุดในโปรเจกต์คือเราไม่มีทางรู้ว่าสิ่งที่เราทำ
หรือ รีสอร์ทนี้รอดหรือจะร่วง เป็นที่มาให้ต้องมีการคิดวิเคราะห์ ตั้งคำถาม
และแก้ปัญหาโดยการเตรียมแผน A B C ไว้ล่วงหน้าทุกด้าน สิ่งที่ไม่เคยจับตอนเป็นสถาปนิกลอยเป็นโจทย์ในหัวที่ผุดขึ้นมา
เรามีทั้งรีสอร์ท ร้านอาหาร สระว่ายน้ำสัตว์เลี้ยง จะทำอย่างไร ภาพตอนเรียนสถาปัตย์ลอยขึ้นมาว่าสถาปนิกคือนักแก้ไขปัญหา
เราเรียนมาให้แก้ไขหาทางออกของานออกแบบให้ที่ดีที่สุด
ก็เหมือนกันแค่เราเอาคอนเซ็ปต์มาสวมเพื่อแก้ไขปัญหาในสิ่งที่เราไม่เคยทำ และค่อย ๆ
แก้ไปทีละเรื่อง อันไหนแก้ได้แก้
อันไหนที่แก้ไม่ได้เรามีสองทางเลือกคือหาทางที่สามารถทำให้มันสำเร็จได้
กับตัดปัญหานั่นทิ้งไป
สูตรความสำเร็จในการทำงาน
ทุกงานที่ลงมือทำมีแต่เป้าหมายว่า “เต็มที่ 100%” พี่ปุ้นใช้สูตรว่าการที่เราจะลงมือทำอะไรให้มองที่ตัวเราเป็นหลัก
ให้ทุกงานที่ทำเต็มไปด้วยการมีทัศนคตที่ดี มีการเอาใจใส่ มีเป้าหมายชัดเจนทุกขั้นตอนและกระบวนการที่เราทำงาน
การเป็นนักกิจกรรมสมัยเรียน หล่อหลอมให้เป็นคนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีความ Friendly
มีเพื่อน มีเครือข่ายมากมาย ทำให้เราได้เรียนรู้ ได้แลกเปลี่ยน
แปบ่งปันประสบการณ์ระหว่างเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง รวมถึงลูกค้าของเรา ตรงนี้เป็นสิ่งที่เติมเต็มให้กับเรามาเรื่อย
ๆ การรับฟังมุมมอง ความคิดเห็น จากผู้คน จะทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการทำงาน
การตั้งเป้าหมาในชีวิต ถ้าเป็นการทำงาน “เราคิดแล้วต้องลงมือทำ
มิเช่นนั้นความคิดนั้นเรียกว่าความเพ้อเจ้อ” ส่วนการใช้ชีวิตต้องเป็นตัวเอง
และเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าให้ใครมากำหนดเส้นทางความสำเร็จของตัวเราเองนอกจากตัวเรา
และพยายามพัฒนา เรียนรู้สกิลใหม่ๆ ตลอดเวลา
อัพเดทความรู้ทุกบทบาทที่เราทำอยู่ให้ทันสมัยเสมอ พร้อมที่จะเปิดรับข้อมูล
ค้นหาตัวตน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตของตัวเองตลอดเวลา ในที่สุดเราจะเป็นตัวเองในแบบที่เราเป็นได้
อย่าหยุดฝัน อย่าหยุดทำ
แปลงความเพ้อเจ้อ ให้เป็นความสำเร็จ
แชร์
Calendar
View more
Related blogs
View more
Loading...