การโค้ชนักศึกษาเพื่อช่วยให้นักศึกษาเติบโตแบบมีความรู้รอบด้าน มีความสามารถในการใช้ชีวิตจริง และพร้อมเผชิญโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นใจ ความรู้นอกตำราที่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นทักษะการพูดในที่สาธารณะ การทำ Presentation และการนำเสนอ การเรียนรู้ผ่านเนื้อหาบนโลกออนไลน์ หรือ อื่นๆ มากมาย ล้วนเป็นความรู้นอกตำรา ที่ไม่ได้อยู่ในหนังสือเรียนหรือหลักสูตรอย่างเป็นทางการ แต่เกิดจากประสบการณ์ตรง การสังเกต การฝึกปฏิบัติ การเข้าสังคมจากการทำงานกลุ่ม งานอาสา การทำกิจกรรม การอ่านนอกเวลา 

สถาบัน Gen.Ed. มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความสำคัญของความรู้นอกตำราสำหรับนักศึกษา โดยวางแนวทางคอนเซ็ปต์การเรียนแต่ละปีการศึกษาให้สามารถเสริมทักษะชีวิตจริง (Life Skills) พัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหา (Creative & Critical Thinking) เปิดโลกทัศน์และสร้างความเข้าใจสังคม (Social Awareness) เพิ่มความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) และสร้างเครือข่ายและประสบการณ์ชีวิต (Networking & Experience)

อาจารย์ฟ้าลั่น ปิยรัช อยู่รักชาติ รองคณบดีสถาบัน Gen.Ed. มหาวิทยาลัยรังสิต “การที่เราจะเพิ่มความสามารถในการปรับตัวในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความรู้นอกตำราทำให้นักศึกษาปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และแนวโน้มต่างๆ ได้ระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันเราควรเสริมสร้างเครือข่ายและประสบการณ์ชีวิต ผ่านการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน เพื่อสร้างโอกาสในการหางานหรือทำธุรกิจในอนาคต ช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้ การจัดการเวลา การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร และความเป็นผู้นำ เตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในโลกจริงที่ต้องพึ่งพามากกว่าความรู้ในห้องเรียน ซึ่งแน่นอนว่าความรู้นอกตำรามักไม่มี “คำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว” แต่จะทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้นักศึกษาคิดอย่างรอบด้าน และมองเห็นปัญหาจากหลายมุม ทำให้นักศึกษารู้จักความหลากหลายของผู้คน วัฒนธรรม ความคิด และปัญหาสังคม ที่สำคัญต้องช่วยให้เข้าใจ “โลกจริง” 

ที่สถาบัน Gen.Ed. มีการศึกษาและหาข้อมูล​ออกแบบหลักสูตร “วิชาศึกษาทั่วไป” (General Education หรือ Gen.Ed.) ให้สอดคล้องกับความสนใจและการใช้ชีวิตของนักศึกษายุคใหม่ โดยหลักสูตรศึกษาทั่วไปฉบับปรับปรุงปีพ.ศ.2567 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มวิชาหลักที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะชีวิตและอาชีพ อาทิ กลุ่มที่ 1 RSU Identity – เน้นการสร้างอัตลักษณ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต และส่งเสริมสังคมธรรมาธิปไตย กลุ่มที่ 2 Internationalization – พัฒนาความสามารถในการสื่อสารและการทำงานในระดับสากล กลุ่มที่ 3 ​สหวิทยาการ (Interdisciplinary)​ การออกแบบรายวิชาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากหลายศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะและมุมมองที่หลากหลาย ไม่ได้เน้นลึกเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเหมือนวิชาเอก แต่เน้นให้มีพื้นฐานรอบด้านเพื่อเข้าใจโลกและชีวิตในมิติต่างๆ เช่น

Leadership – เสริมสร้างภาวะผู้นำ ความรัก ความดี และความซื่อสัตย์สุจริต Art and Culture – เรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพื่อการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ Innovative Entrepreneurship – ส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์ Digital Media Literacy – พัฒนาทักษะการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล Essence of Science – เสริมสร้างหลักคิดทางวิทยาศาสตร์ และRSU My Style – ให้นักศึกษาเลือกเรียนตามความสนใจและความถนัดของตนเอง​จุดเด่นของวิชาศึกษาทั่วไป ที่มหาวิทยาลัยรังสิตเน้นการเรียนรู้แบบ Authentic Learning: การเรียนการสอนที่เน้นการปฏิบัติจริง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตและการทำงานในโลกจริง พัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21: เช่น ทักษะด้านภาษา การสื่อสาร ทักษะด้านไอที ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพ ส่งเสริมจิตอาสาและความรับผิดชอบต่อสังคม: นักศึกษาจะได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการเป็นพลเมืองที่ดี​วิชาศึกษาทั่วไปเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนและการทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักศึกษาได้ค้นพบความสนใจและศักยภาพของตนเอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการวางแผนเส้นทางชีวิตและอาชีพในอนาคต​

และคอนเซ็ปต์ของการเรียนรู้ในปี 2568 นี้ ยังให้ความสำคัญทางพัฒนาการทางกาย ใจ และสังคมของวัยรุ่น มองหารูปแบบและวิธีสื่อสารที่เข้าถึงวัยรุ่นได้ โดยหยิบยกประเด็นที่วัยรุ่นให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความรัก เพศ ตัวตน การค้นหาความฝัน ความเท่าเทียม สิ่งแวดล้อม ความยุติธรรม สังคมยุคใหม่ เป็นต้น เพื่อลดความกดดันเรื่องการเรียน อนาคต หรือความคาดหวังต่าง ๆ ในฐานะสถาบันการศึกษายุคใหม่จึงต้องฟังมากกว่าพูด เข้าใจมากกว่าตัดสิน และร่วมเรียนรู้โลกของพวกเขา มากกว่าฝืนให้พวกเขาเข้าใจโลกของเรา “ครูผู้ฮีลใจ” จึงเป็นหนึ่งในแนวทางการเรียนการสอนในปีนี้ ตัวอย่างรายวิชา RSU My Style เพื่อเข้าใจธรรมชาติของนักศึกษาแต่ละคน ครูผู้ฮีลใจจะช่วยนักศึกษาแต่ละคนค้นหาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง สะท้อนให้เห็นศักยภาพในตัวนักศึกษา เปิดพื้นที่ให้พูดคุย ซักถาม ทำงานร่วมกัน ผ่านประสบการณ์จากเหล่าครูผู้ฮีลใจมากประสบการณ์ ที่นักศึกษาจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และปิดช่องว่าง ลดปัญหา ความเครียดในการเรียนและการใช้ชีวิต ต่อยอดเป็นภูมิต้านทานในการออกไปใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริงได้อย่างมั่นใจ